มีข้อมูลมากมายที่เราควรรู้ ถ้าอยากจะรับลูกสุนัขสักตัวมาดูแล และการทำความเข้าใจความต้องการของลูกสุนัขตั้งแต่ต้น จะทำให้มั่นใจได้ว่าน้องจะมีสุขภาพร่างกายและจิตใจที่แข็งแรงด้วย
สำหรับใครที่กำลังเริ่มต้นเลี้ยงน้องในบ้าน การเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นที่อยู่อาศัย อุปกรณ์ต่างๆ ที่จะช่วยให้น้องสามารถปรับตัวให้เข้ากับสถานที่และคนในครอบครัวได้ จะมีปัจจัยหลายอย่างที่จะส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของน้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสายพันธุ์และอายุ ดังนั้น ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับการดูแลน้อง ตั้งแต่ความต้องการด้านโภชนาการไปจนถึงการออกกำลังกายและการแปรงขน ล้วนต้องคำนึงถึงลักษณะเฉพาะต่างๆ ของลูกสุนัขด้วย
สภาพแวดล้อม
ลูกสุนัขต้องการเรียนรู้และมักจะสนใจสิ่งรอบตัวเป็นอย่างมาก ซึ่งหากได้รับประสบการณ์ด้านลบจะส่งผลกระทบระยะยาว พัฒนาการด้านพฤติกรรมของลูกสุนัขประกอบด้วยหลายระยะ รวมไปถึงระยะของการเข้าสังคม ซึ่งเริ่มตั้งแต่อายุ 4- 14 สัปดาห์
ระยะของความกลัวอยู่ภายในระยะของการเข้าสังคม ดังนั้นการบาดเจ็บใดๆ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้จึงอาจมีผลกระทบเชิงลบในระยะยาว เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่คุณจะต้องใส่ใจกับประสบการณ์ด้านสภาพแวดล้อมของลูกสุนัขตั้งแต่วันแรก
ให้ลูกสุนัขมีที่นอนของตัวเอง: คุณควรเตรียมที่นอนให้ลูกสุนัข เพื่อให้ลูกสุนัขมีพื้นที่ส่วนตัวและรู้สึกปลอดภัย
สร้างสภาพแวดล้อมที่ดึงดูดใจ: ของที่ลูกสุนัขชื่นชอบ เช่น กล่องกระดาษแข็งขนาดใหญ่สำหรับซ่อนตัว และของเล่นยางสำหรับเคี้ยว สิ่งสำคัญคือ ควรมีคนคอยดูแลทุกครั้งที่เล่น
ค่อยๆ ทำให้ลูกสุนัขคุ้นเคยกับสภาพแวดล้อมใหม่: หากคุณอาศัยอยู่ในเมือง คุณควรค่อยๆ ทำให้ลูกสุนัขคุ้นเคยกับสิ่งที่พวกเขาจะต้องพบเจอ เช่น รถยนต์ บันไดเลื่อน ลิฟต์ รถไฟ รถรางหรือรถประจำทาง
ฝึกให้อยู่ตามลำพัง: ลูกสุนัขต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ตามลำพังในบางครั้งด้วยเช่นกัน
แนะนำให้รู้จักกับสุนัขตัวอื่น: ลูกสุนัขจำเป็นต้องพบปะกับสุนัขตัวอื่น สัตว์ประเภทอื่น และทำกิจกรรมนอกบ้านกับครอบครัวให้ได้มากที่สุด เพื่อพัฒนาการในเรื่องการเข้าสังคม
พาลูกสุนัขออกไปเล่นนอกบ้าน: อย่าลืมที่จะพาลูกสุนัขออกไปข้างนอกบ้าง ลูกสุนัขจะเริ่มสำรวจสภาพแวดล้อมรอบตัวตั้งแต่อายุสองเดือน

ที่อยู่อาศัย
สุนัขที่อยู่นอกบ้านควรจะมีที่กำบังจากแดด ฝน และลมหนาว
สุนัขต้องการที่หลับนอนที่อบอุ่น/เย็นสบาย
ถ้าจะผูกสุนัขไว้ ควรใช้เชือก/โซ่ยาว โปรดระวังโซ่หรือเชือกจะพันรอบตัวสุนัขทำให้ได้รับความเจ็บ
การให้อาหาร
ความต้องการสารอาหารจะเปลี่ยนแปลงไปเมื่อลูกสุนัขของคุณโตขึ้น ในระยะแรก ลูกสุนัขจะต้องการอาหารมื้อเล็กๆ หลายมื้อต่อวัน แล้วค่อยๆ ลดลงจนเหลือหนึ่งหรือสองมื้อ ขนาดและสายพันธุ์ของสุนัขมีผลต่อความต้องการด้านโภชนาการพอๆ กัน เนื่องจากสุนัขบางตัวมีความทนทานต่อการย่อยอาหารที่แตกต่างกันไป สุนัขควรดื่มน้ำบ่อยๆ และไม่ควรให้อาหารสุนัขมากจนเกินไป
หากคุณไม่แน่ใจว่าสุนัขควรได้รับอาหารมากน้อยแค่ไหน หรือช่วงของการเจริญเติบโตจะมีผลต่อเรื่องนี้อย่างไร โปรดสอบถามสัตวแพทย์เพื่อขอคำแนะนำ สัตวแพทย์จะเป็นผู้ที่สามารถให้คำแนะนำเพื่อการเจริญเติบโตที่เหมาะสม และช่วยป้องกันโรคอ้วนเพื่อไม่ให้ข้อต่อที่กำลังพัฒนารับน้ำหนักมากเกินไป
สุดท้ายแล้ว อาหารจะต้องให้พลังงาน แต่ก็ต้องสร้างและรักษาเซลล์ของร่างกาย เพื่อช่วยป้องกันปัญหาเกี่ยวกับการย่อยอาหาร ผิวหนัง ฟัน ข้อต่อ รวมทั้งปัญหาที่เกิดจากความชรา อาหารที่มีคุณค่าทางโภชนาการ ตรงตามความต้องการของโภชนาการและสุขภาพ จะประกอบด้วยสารอาหารในปริมาณที่เหมาะสม
อย่าเปลี่ยนอาหารอย่างกะทันหัน: เพื่อหลีกเลี่ยงความแปรปรวนของระบบทางเดินอาหารในลูกสุนัข เมื่อคุณพาลูกสุนัขเข้าบ้านครั้งแรก คุณควรให้ลูกสุนัขกินอาหารเหมือนที่เคยกินก่อนจะมาอยู่กับคุณ หากคุณต้องการเปลี่ยนอาหาร ให้ค่อยๆ เปลี่ยนในช่วงสัปดาห์แรก โดยผสมอาหารแบบใหม่และแบบเดิมในสัดส่วนที่แตกต่างกันออกไป
ให้ลูกสุนัขกินอาหารที่เหมาะกับอายุ: มีอาหารสูตรพิเศษสำหรับลูกสุนัขในช่วงอายุต่างๆ ซึ่งเหมาะสมกับความต้องการเพื่อการเจริญเติบโตของลูกสุนัข เพื่อการเจริญเติบโตที่เหมาะสม โปรดทำตามคำแนะนำของสัตวแพทย์
ทำเป็นกิจวัตรประจำวัน: สุนัขเป็นสัตว์ที่ชอบอยู่เป็นฝูง และต้องการแสดงลำดับชั้นที่ชัดเจน ควรให้อาหารลูกสุนัขของคุณทุกวันในสถานที่เดิม เวลาเดิม และให้หลังจากที่คุณและครอบครัวรับประทานอาหารแล้ว เพื่อทำให้สุนัขเข้าใจว่าคุณเป็นใหญ่ในบ้าน หลังจากกินอาหารแล้ว หากเป็นไปได้ อย่าให้ลูกสุนัขกระโดดไปมาประมาณหนึ่งถึงสองชั่วโมง
ควรให้ขนมในบางโอกาสเท่านั้น: ไม่ควรให้ขนมบ่อยๆ เพื่อรักษาน้ำหนักของสุนัขให้อยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม ห้ามให้น้ำตาลและช็อกโกแลต เนื่องจากช็อกโกแลตอาจเป็นพิษต่อสุนัขได้ หรือคุณยังสามารถให้อาหารเม็ดแทนขนมได้

การออกกำลังกาย
สุนัขทุกตัวต้องออกกำลังกาย แต่ความเข้มข้นและประเภทของการออกกำลังกายนั้นแตกต่างกันไปตามอายุ ขนาด และสายพันธุ์
ควรมีพื้นที่ออกกำลังกายให้สุนัข: การพาสุนัขเดินออกไปฉี่แค่ชั่วครู่ไม่นับว่าเป็นการเดินออกกำลังกาย
น้อยแต่บ่อย: อย่าลืมว่าสุนัขพันธุ์ขนาดกลางถึงพันธุ์ยักษ์จะมีระยะการเจริญเติบโตที่ยาวนานกว่า เพื่อให้กระดูกและข้อต่อพัฒนาเต็มที่ ดังนั้นจึงไม่ควรเดินเป็นระยะทางไกลๆ หรือเล่นกีฬาบางประเภทจนกว่าจะโตมากขึ้น ควรให้สุนัขเดินระยะทางใกล้ๆ แต่เดินบ่อยๆ แทน
หาเวลาเล่น: การเล่นเป็นการออกกำลังกายตามธรรมชาติของสุนัข และช่วยในเรื่องการพัฒนาทางด้านจิตใจ เป็นการดีสำหรับสุนัขของคุณในหลายๆ ด้าน ถ้าคุณสามารถพาสุนัขออกไปเล่นได้ เพื่อช่วยกระชับความสัมพันธ์ เพื่อควบคุมน้ำหนัก เพื่อทำให้สุนัขมีชีวิตชีวาและเพื่อเสริมสร้างการทำงานของระบบหัวใจหลอดเลือดและระบบภูมิคุ้มกันของสุนัข
การแปรงขนและสุขภาพ
การแปรงขนเป็นกิจวัตรประจำวันที่ควรทำ เพราะการแปรงขนจะช่วยทำให้สุขภาพผิวหนังและขนของลูกสุนัขดีขึ้น รวมถึงเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างลูกสุนัขกับคุณอีกด้วย นอกจากนี้ การแปรงขนอาจช่วยให้คุณตรวจพบความผิดปกติต่างๆ ได้ เช่น เห็บหมัด ความผิดปกติของผิวหนัง หรือบริเวณที่มีปัญหาในระยะแรก สุนัขส่วนใหญ่มีความสุขกับการแปรงขนถ้ามีความคุ้นชินตั้งแต่ยังเด็ก แต่ก็ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับการเริ่มต้น
เริ่มดูแลฟันตั้งแต่ยังเด็ก: วิธีนี้จะทำให้ลูกสุนัขของคุณคุ้นเคยกับการแปรงฟันด้วยแปรงสีฟันและยาสีฟันที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับสุนัข พยายามแปรงฟันลูกสุนัขของคุณให้ได้หลายๆ ครั้งต่อสัปดาห์
นัดหมายการฉีดวัคซีน: การฉีดวัคซีนช่วยป้องกันโรคติดต่อ และในบางกรณีก็ป้องกันโรคที่มีอันตรายถึงชีวิตได้ วัคซีนบางตัวจำเป็นต้องฉีด แต่บางตัวเป็นวัคซีนที่แนะนำให้ฉีด ปกติแล้วลูกสุนัขจะเริ่มโปรแกรมการฉีดวัคซีนเมื่ออายุหกถึงแปดสัปดาห์
สอบถามสัตวแพทย์เกี่ยวกับการถ่ายพยาธิ: ลูกสุนัขมักจะมีพยาธิ และควรทำการถ่ายพยาธิทุกเดือนจนอายุครบหกเดือน จากนั้นค่อยเปลี่ยนเป็นทุกหกเดือน สัตวแพทย์จะสามารถแนะนำตารางนัดหมายในการถ่ายพยาธิที่เหมาะสมกับลูกสุนัขของคุณมากที่สุดได้ ดังนั้น คุณควรทำตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด
สอบถามสัตวแพทย์เกี่ยวกับการป้องกันหมัด: อย่าลืมปกป้องลูกสุนัขของคุณจากหมัดและเห็บ เพื่อให้ได้ผลที่สุด คุณจะต้องดูแลรักษาทั้งสุนัขและสภาพแวดล้อมด้วย ขอคำปรึกษาจากสัตวแพทย์
ควรทำหมันสัตว์เลี้ยงตัวเมียหรือตัวผู้: การตัดสินใจว่าจะทำหมันให้สัตว์เลี้ยงตัวเมียหรือตัวผู้นั้นเป็นการตัดสินใจที่สำคัญ จึงควรพิจารณาให้รอบคอบ ซึ่งต้องเลือกระหว่างประโยชน์ที่ได้จากการทำหมันให้ตัวเมียหรือตัวผู้ กับความต้องการให้มีลูกในอนาคต
การฝึก
พฤติกรรมที่ดีและการเชื่อฟังต้องเริ่มต้นตั้งแต่เนิ่นๆ การฝึกของคุณจำเป็นต้องเริ่มให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ ในช่วงอายุที่ลูกสุนัขของคุณมีความสามารถในการเรียนรู้ตามธรรมชาติได้สูงที่สุด
เพื่อความสะดวกสบายของคุณและคนอื่นๆ สุนัขของคุณต้องเข้าใจกฎพื้นฐานของชีวิต อย่าลังเลที่จะโทรติดต่อขอความช่วยเหลือจากมืออาชีพเพื่อฝึกสุนัขของคุณ มีสมาคมสุนัขและโรงเรียนฝึกสุนัขอยู่หลายแห่งที่สามารถช่วยคุณทำภารกิจนี้ได้
การฝึกให้อยู่บ้าน: ลูกสุนัขที่นำมาเลี้ยงใหม่ๆ ส่วนใหญ่จะไม่ได้รับการฝึกให้อยู่บ้าน การฝึกต้องใช้เวลาและความอดทน ไม่ควรลงโทษหรือดุลูกสุนัขหากขับถ่ายโดยไม่ตั้งใจ ควรหาวิธีป้องกันลูกสุนัขไม่ให้ขับถ่ายในบ้านแทน
เริ่มเรียกชื่อตั้งแต่ยังเด็ก: ขั้นแรก ให้เริ่มจากออกเสียงชื่อของลูกสุนัขช้าๆ และชัดเจนเพื่อดึงความสนใจ และเรียกชื่อลูกสุนัขทุกครั้งที่บอกให้ทำตามคำสั่ง เลือกช่วงเวลาที่ลูกสุนัขมีความตื่นตัวเพื่อช่วยให้ลูกสุนัขทำความรู้จักกับคุณ และเรียกให้ลูกสุนัขมาหาเพื่อสอนให้ทำตามคำสั่ง
ค่อยๆ ทำให้ลูกสุนัขคุ้นเคยกับรถยนต์: ทำให้ลูกสุนัขของคุณคุ้นเคยกับการนั่งในรถยนต์ตั้งแต่ยังเด็กๆ ลูกสุนัขจะได้ไม่กลัวการขึ้นรถ ลองขับไปที่ใกล้ๆ สักสองสามครั้งก่อนที่จะเริ่มขับไปไหนไกลๆ
สำหรับการนำลูกสุนัขมาเลี้ยงครั้งแรกนั้น คุณจำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้ข้อมูลต่างๆ มากมาย รวมไปถึงเรื่องพื้นฐานต่างๆ ทั้งหมดที่จะช่วยให้ลูกสุนัขมีสุขภาพที่ดีทั้งกายและใจ แต่การเริ่มต้นอย่างถูกวิธีนั้น จะทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นสำหรับคุณและสุนัขของคุณ และถ้าคุณมีข้อสงสัย สัตวแพทย์จะเป็นผู้ที่สามารถให้คำแนะนำและช่วยเหลือคุณได้
การขยายพันธุ์สุนัข
ทุกๆ ปี สุนัขเป็นจำนวนนับพันนับหมื่นถูกทำลาย เพราะไม่มีที่อยู่อาศัยที่เพียงพอ
สุนัขเพศเมียสามารถให้กำเนิดลูกสุนัขได้ เป็นจำนวนหลายๆ ตัวในแต่ละปี ภายในระยะเวลา 6 ปี สุนัขแต่ละคู่สามารถผลิตลูกได้ถึง 67,000 ตัว โดยการให้กำเนิดและเลี้ยงลูก
แม่สุนัขจะมีสุขภาพทรุดโทรมลง
แม่สุนัขที่ตั้งท้อง ย่อมต้องการอาหารเป็นพิเศษ
ลูกสุนัขตามปกติจะกินน้ำนมจากแม่ประมาณ 3 สัปดาห์ แล้วจะเริ่มกินอาหารได้ด้วยตัวเอง
แม่สุนัขตามปกติจะดุและหวงลูกๆในช่วงเวลาดังกล่าว จึงควรจัดสถานที่ที่เงียบสงบปราศจากการรบกวนให้แม่สุนัขกับลูกๆได้อยู่
เพื่อป้องกันในกรณีที่ไม่ต้องการลูกสุนัข โปรดนำสุนัขของท่านไปตอน/ทำหมัน จากสัตวแพทย์
การทำหมัน
เครื่องมือและเวชภัณฑ์แพทย์สมัยใหม่ทำให้การผ่าตัดปลอดภัย ไม่เจ็บปวด แต่ฟื้นตัวเร็ว
โปรดสอบถามกับสัตวแพทย์ว่าเมื่อใดที่เหมาะสมที่จะทำหมันและฉีดยาให้สุนัข
สุนัขของท่านไม่จำเป็นที่จะรอให้ถึงระยะมีระดูก่อนทำหมัน
การทำหมันตั้งแต่ต้นอายุ 8 สัปดาห์ ขณะนี้กำลังเป็นที่นิยมโดยทั่วไป
เมื่อสุนัขตัวเมียได้ทำหมัน ก็จะไม่กลับมาเป็นสัดอีก และจะไม่เป็นที่สนใจของสุนัขตัวผู้
การทำหมันสุนัขตัวเมียสามารถช่วยลดความเสี่ยงเนื้องอกในเต้านมสุนัขได้
การทำหมันยังช่วยลดอาการดุร้ายและการเตร็ดเตร่ออกนอกบ้าน
การดูแลสัตว์เลี้ยงไม่ใช่เพียงให้ที่อยู่อาศัย ให้อาหาร หรือเลี้ยงดูให้เติบโตเท่านั้น เราเองต้องพึงระวังโรคต่างๆที่สามารถเกิดขึ้นและแพร่เชื้อต่อเจ้าของได้เช่นกัน

ระวัง! 6 โรคร้ายที่ติดต่อจากสัตว์เลี้ยงสู่คนได้
สัตว์เลี้ยงของเรา ถึงแม้ว่าจะน่ารักน่าชัง หรือเรารักเขาเหมือนเป็นสมาชิกในครอบครัวอีกคนหนึ่งมากแค่ไหน แต่สัตว์ก็คือสัตว์ สามารถไม่สบาย เป็นโรค และแพร่เชื้อสู่มนุษย์ผู้เป็นเจ้าของได้เช่นกัน ไม่ว่าจะหมา แมว นก หนู กระรอก กระต่าย และอื่นๆ เรามาดูโรคที่สามารถติดต่อจากสัตว์เลี้ยงสู่คนได้ดังนี้
1. โรคพิษสุนัขบ้า
ถึงแม้ชื่อจะบอกว่าเป็นพิษสุนัขบ้า แต่สัตว์ที่จะแพร่โรคนี้ให้เราไม่จำเป็นต้องเป็นสุนัขเท่านั้น สามารถเป็นแมว ม้า วัว และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมอื่นๆ ได้ทั้งนั้น ยิ่งหากคุณเลี้ยงสัตว์แบบเปิด ให้สัตว์เลี้ยงออกไปป้วนเปี้ยนนอกบ้านได้ด้วยแล้วล่ะก็ โอกาสติดเชื้อพิษสุนัขบ้ายิ่งมีสูง หากกัดเราขึ้นมา เราก็จะติดเชื้อไปด้วย แต่สามารถป้องกันได้ง่ายๆ แค่ฉีดวัคซีนให้สัตว์เลี้ยง
2. โรคผิวหนังจากเชื้อรา

พอเห็นว่าเป็นเชื้อรา ก็คงจะทราบกันดีอยู่แล้วว่ามันสามารถติดต่อกันได้ ยิ่งสัตว์เลี้ยงของคุณที่มีขนฟูๆ นุ่มนิ่มๆ หรือขนหนายาวเป็นพิเศษ ยิ่งเสี่ยงต่อโรคนี้ ควรทำความสะอาดร่างกายของสัตว์เลี้ยงด้วยแชมพูที่ผสมสารป้องกันเชื้อรา และทำความสะอาดบริเวณที่เลี้ยงสัตว์ด้วยการดูดฝุ่น ถูพื้นด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรค
3. โรคฉี่หนู

นี่ก็เป็นอีกโรคที่ไม่ได้เกิดกับเฉพาะหนู ไม่ว่าจะสุนัข โค กระบือ สุกร แพะ แกะ หรือสัตว์เลี้ยงในบ้านอื่นๆ ก็แพร่เชื้อโรคฉี่หนูได้เหมือนกัน โดยเมื่อสัตว์เลี้ยงที่ติดเชื้อขับปัสสาวะหรืออุจจาระออกมา ปะปนกับน้ำคลำ น้ำท่วม หรือเราบังเอิญสัมผัสกับปัสสาวะและอุจจาระของสัตว์เลี้ยง และเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายผ่านบาดแผล
4. โรคแมวข่วน

อันนี้น่ากลัวที่ว่า หากสัตว์เลี้ยงของเราติดเชื้อ เค้าจะไม่แสดงอาการผิดปกติออกมาให้เราเห็น หากเจ้าของโดนข่วน หรือกัด ที่แผลจะพบผื่นแดง ตุ่มพอง และหากร่างกายของเจ้าของมีภูมิคุ้มกันต่ำ หรือบังเอิญโชคร้าย อาจมีโอกาสติดเชื้อแทรกซ้อนที่หัวใจ หรือตับได้ ดังนั้นจึงควรระวังตัวไม่ให้โดนสัตว์เลี้ยงข่วนหรือกัด หากโดนข่วนหรือกัดให้รีบล้างแผลให้สะอาด อย่าให้สัตว์เลี้ยงเลียแผล และหมั่นอาบน้ำให้สัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันเห็บหมัด ซึ่งเป็นพาหะนำเชื้อ
5. โรคพยาธิ

ไม่ว่าจะเป็นพยาธิปากขอ พยาธิตัวกลม หรืออื่นๆ คุณอาจสัมผัสกับไข่ของพยาธิจากดิน พื้น หรือตามที่ต่างๆ บริเวณบ้าน ดังนั้นก่อนหยิบอาหารเข้าปาก ควรล้างมือหลังจากเล่นกับสัตว์เลี้ยงของคุณเสร็จเรียบร้อย และอย่าลืมเตือนเจ้าตัวเล็กตัวน้อยที่วิ่งเล่นในบ้านด้วยล่ะ
6. ภูมิแพ้ หอบหืด

สุดท้าย โรคสุดคลาสสิกที่หลายๆ คนต้องยอมใจ ยกสัตว์เลี้ยงแสนรักให้คนอื่นเลี้ยงต่อ เพราะทนกับขนหมาขนแมวไม่ไหว แต่จริงๆ แล้วสิ่งที่คนแพ้ไม่ใช่ขนเพียงอย่างเดียว แต่ยังเป็นขี้ไคลของพวกมันที่ทำให้เราแพ้ ยังไม่นับเหล่าสัตว์เลี้ยงที่ไปตบตีกัดเล่นกันสัตว์ตัวอื่นๆ ทั้งหนู แมลงสาบ จิ้งจก ฯลฯ ก่อนที่จะมาเล่นกับเรา เราอาจจะแพ้เจ้าสัตว์อื่นๆ พวกนี้ด้วยก็ได้ ทางแก้คือ ทำความสะอาดสัตว์เลี้ยงแสนรักของคุณให้ดี และหลีกเลี่ยงการเอาสัตว์เลี้ยงมานอนบนเตียง นั่งบนโซฟาด้วย และอาจเลี้ยงพันธุ์ขนสัตว์ ขนไม่ร่วงง่ายๆ แทน
ถึงเราจะรักพวกเขามากแค่ไหน แต่เราก็ต้องรักตัวเองกันด้วย เพราะขึ้นชื่อว่าสัตว์ อย่างไรเรามันก็คงดูแลตัวเองไม่ได้ดีเท่าเรา ถ้าคิดจะเลี้ยงพวกเขา ก็ต้องเข้าใจพวกเขาด้วย
เลี้ยงน้องหมาเอาไว้แก้แหงา นอกจากจะต้องมีเวลาแล้ว ยังต้องมีเงินอีกด้วย
เพราะสุนัขก็ต้องการการดูแลเอาใจใส่ไม่ต่างจากคนเราเท่าไหร่ หากน้องได้กินดีอยู่ดีก็พลอยให้สุขภาพจิตและสุขภาพกายของน้องดีไปตามๆกัน
ดังนั้นก่อนจะไปรับน้องมาเลี้ยง เราไปดูกันว่ามีค่าใช้จ่ายอะไรที่ควรเตรียมเอาไว้ให้พร้อมบ้าง
ค่าวัคซีนสุนัข
น้องหมาทุกตัวควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันโรคให้ครบ แถมยังต้องฉีดกระตุ้นอีกหลายครั้ง ค่าวัคซีนจึงถือเป็นเรื่องใหญ่และสำคัญที่สุดที่คนอยากเลี้ยงสุนัขควรเตรียมเอาไว้ให้พร้อม ซึ่งวัคซีนสำหรับสุนัขนั้น จะมีทั้งวัคซีนจำเป็นและวัคซีนแนะนำ
วัคซีนจำเป็นที่ต้องฉีดให้สุนัข ได้แก่ วัคซีนป้องกันโรคหัด โรคลำไส้อักเสบ โรคตับอักเสบ โรคทางเดินหายใจ และโรคไข้ฉี่หนู เริ่มฉีดตั้งแต่อายุ 6-8 สัปดาห์ และฉีดกระตุ้นเมื่ออายุครบ 10 สัปดาห์ และ 12 สัปดาห์ ราคาประมาณ 200-400 บาท/เข็ม
วัคซีนแนะนำ ได้แก่ ไข้หวัดและโรคพิษสุนัขบ้า เมื่อฉีดวัคซีนจำเป็นครบแล้ว จึงจะสามารถฉีดวัคซีนแนะนำได้ ราคาเข็มละประมาณ 50-150 บาท
ค่าอาหารสุนัข
สำหรับ ค่าอาหารสุนัข เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ มีทั้งรูปแบบอาหารเม็ด อาหารกระป๋อง อาหารเปียก รวมถึงขนมอื่นๆ ที่น้องหมาชื่นชอบ
น้องหมาพันธุ์เล็ก อยู่ที่ประมาณ 500-1000/ตัว/เดือน
น้องหมาพันธุ์ใหญ่ อยู่ที่ประมาณ 1,000-2,000 บาท/ตัว/เดือน
เลี้ยงแบบหรูหรา อยู่ที่ประมาณ 3,000-5,000 บาท/ตัว/เดือน
ดังนั้น ให้เราคำนวณปริมาณอาหารอย่างเหมาะสม ว่าแต่ละวันจะให้อาหารกี่มื้อ ตามงบที่เราต้องการ
ค่าชามใส่อาหารสุนัขและน้ำ
ใครคิดจะตัดค่าใช้จ่ายส่วนนี้ออกไป เพราะชามแบบไหนก็ใส่อาหารให้น้องหมากินได้ ขอให้คิดใหม่ ชามใส่อาหารและน้ำนั้น ควรเลือกให้เหมาะสมกับสรีระและลักษณะใบหน้าของสุนัข หากสุนัขของเราเป็นพันธุ์ที่มีใบหน้าสั้น อย่าง ปั๊กหรือชิสุ ควรเลือกชามใส่อาหารและน้ำก้นตื้น น้องหมาจะได้กินอาหารสะดวกขึ้น ไม่สำลักและไม่เลอะเทอะ ส่วนสุนัขพันธุ์ใหญ่ขายาว แนะนำให้ซื้อชามใส่อาหารและน้ำพร้อมฐานรอง จะช่วยให้น้องหมาตัวใหญ่ของเรา กินสบาย ไม่ต้องก้ม ไม่ต้องเกร็ง ช่วยลดปัญหาข้อต่อของสุนัขได้ ราคาเฉลี่ยของชามใส่อาหารและน้ำ มีตั้งแต่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อย หรืออาจสูงถึงหลักพัน แนะนำว่าซื้อที่คุณภาพดีๆ หนึ่งครั้ง ใช้ได้นานจะคุ้มกว่า
ค่าปลอกคอสุนัขและสายจูง
สุนัขที่มีเจ้าของควรใส่ปลอกคอให้เป็นกิจลักษณะ เผื่อเกิดเหตุการณ์ฉุกเฉินหลุดออกจากบ้าน คนที่พบเห็นจะได้ช่วยตามหาเจ้าของ ไม่คิดว่าเป็นหมาหลงทางหรือหมาจร สำหรับปลอกคอควรฝึกใส่ให้ชินตั้งแต่ยังเป็นลูกสุนัข การเลือกปลอกคอก็ควรเลือกให้เหมาะสมกับขนาดลำคอของน้องหมา เมื่อสวมปลอกคอแล้วควรมีช่องว่างให้พอเอานิ้วมือคนสอดเข้าไปได้ ไม่แน่นจนเกินไป ส่วนความกว้างของปลอกคอ หากเป็นสุนัขพันธ์เล็กควรกว้างประมาณ 0.5 นิ้ว และสำหรับสุนัขพันธ์ใหญ่ควรกว้างตั้งแต่ 1 นิ้วขึ้นไป จะได้แข็งแรงพอให้เจ้าของควบคุมเวลาใส่สายจูงได้ ราคาของปลอกคอและสายจูงขึ้นอยู่กับเกรด ถ้าจะให้คุณภาพดีและแข็งแรงทนทานหน่อย ราคาจะอยู่ประมาณ 100 – 300 บาท
ค่าแชมพูอาบน้ำสุนัข
แชมพูอาบน้ำควรเลือกเป็นแชมพูอาบน้ำสำหรับสุนัขโดยเฉพาะ เพราะน้องหมามีผิวหนังที่บอบบางกว่าคนเรา การใช้แชมพูหรือสบู่เหลวของคนอาบน้ำให้สุนัข โดยเฉพาะลูกสุนัขจึงอาจทำให้ผิวหนังของสุนัขเกิดการระคายเคืองได้ ทั้งยังอาจทำให้ติดเชื้อราและเชื้อแบคทีเรียง่ายขึ้นอีกด้วย แชมพูอาบน้ำของสุนัขมีให้เลือกหลายสูตร โดยส่วนใหญ่ก็จะเลือกสูตรที่ช่วยทำให้ขนของสุนัขเงางามและไม่แห้งกระด้าง หรืออาจเลือกใช้เป็นแชมพูสูตรออแกนิคที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติจะปลอดภัยต่อดวงตาและผิวหนังของสุนัข หรืออาจเลือกเป็นแชมพูผสมคอนดิชันเนอร์ในตัว จะช่วยให้ขนนุ่มและแปรงขนง่ายขึ้น หากสุนัขมีปัญหาเรื่องผิวหนัง ก็อาจเลือกเป็นแชมพูที่ช่วยแก้ปัญหา ลดเชื้อรา แก้ขนร่วง ช่วยลดอาการคัน แชมพูสุนัขราคาจะอยู่ที่ประมาณ 100-500 บาท/ขวด
*แต่ไม่ควรอาบน้ำให้น้องหมาบ่อยเกินไป เพราะจะทำให้น้องหมาสูญเสียน้ำมันที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติไป ทำให้น้องหมามีผิวแห้ง
ค่าใช้จ่ายเบ็ดเตล็ด
ค่ารักษาพยาบาลสุนัข
ค่ารักษาพยาบาลเป็นค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมในกรณีที่สุนัขเป็นโรคหรือเกิดอุบัติเหตุ ราคาขึ้นอยู่กับสถานพยาบาล โรค และวิธีการรักษา หากต้องผ่าตัดก็อาจจะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้น ส่วนใหญ่ราคาค่ารักษาพยาบาลเริ่มต้นจะอยู่ที่ประมาณ 1,000 บาท
ค่าทำหมันสุนัข
การทำหมันช่วยลดการเป็นสัด ป้องกันโรคทางระบบสืบพันธุ์ ลดพฤติกรรมก้าวร้าว และลดอัตราการเกิดเนื้องอกเต้านม หรือมดลูกอักเสบลงได้ ราคาประมาณ 700-1,000 บาท
ว่ายน้ำ
ว่ายน้ำนอกจากเป็นการออกกำลังกายแล้ว ยังช่วยแก้ปัญหาน้องหมาที่มีอาการข้อสะโพกเสื่อมได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะคิดค่าบริการตามขนาดตัวของสุนัข ราคาประมาณ 300-500 บาท/ครั้ง
อาบน้ำ ตัดขนสุนัข
การพาสุนัขไปอาบน้ำ-ตัดขน หรือตัดเล็บบ้าง จะช่วยดูแลเรื่องสุขอนามัยและความสวยงามให้น้องหมา ราคาค่าบริการเริ่มต้นประมาณ 300 บาท/ครั้ง
ของเล่นสุนัข
ของเล่นช่วยแก้เหงาให้สุนัขเวลาเจ้าของไม่อยู่บ้านหรือไม่ว่างมาเล่นด้วย มีหลายแบบหลายเกรด บางอย่างช่วยบำรุงฟันและเหงือกได้ แต่อย่าลืมเลือกของเล่นให้เหมาะกับขนาดของสุนัขและเลือกวัสดุที่ปลอดภัยไร้สารเคมี ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 150 บาท/ชิ้น
น้ำยาเช็ดคราบน้ำตาสุนัข
น้ำยาเช็ดคราบน้ำตาสำหรับทำความสะอาดดวงตาของน้องหมาให้สดใส หากสุนัขของเราเริ่มมีคราบขี้ตาหรือคราบสีน้ำตาลรอบดวงตา ให้ใช้น้ำยาเช็ดคราบน้ำตาเช็ดออก เพื่อป้องกันการติดโรคที่เกี่ยวกับดวงตา ราคาประมาณ 100-300 บาท/ขวด
ราคาค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงสุนัขเป็นราคาโดยประมาณ ค่าใช้จ่ายจะแพงหรือจะถูกก็ยังมีปัจจัยอื่นๆ เข้ามาเกี่ยวข้องอีกมากมาย ทั้งคุณภาพ ปริมาณ รวมถึงความพึงพอใจของเจ้าของ แต่จากราคาโดยประมาณนี้ก็จะเห็นแล้วว่าการเลี้ยงสุนัข 1 ตัว นั้นไม่ใช่เรื่องง่าย น้องมีจิตใจและมีสุขภาพร่างกายที่ต้องดูแลเหมือนกับเราๆ ก่อนจะไปรับน้องมาเลี้ยง เจ้าของเองก็ควรสำรวจความพร้อมของตัวเองด้วยเช่นกัน จะได้มีความสุขกันทั้งสองฝ่ายนะคะ
สุนัขทุกตัวมีความซุกซน แต่บางตัวอาจมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม อาจจะเพราะพวกเค้าไม่ได้รับการฝึกตั้งแต่เด็ก เป็นสุนัขจรจัดมาก่อน หรือไม่เคยเข้าสังคมกับสุนัขตัวอื่นๆ จนทำให้เกิดความรู้สึกไม่ปลอดภัยและวิตกกังวล ซึ่งจะส่งผลให้มีพฤติกรรมไม่อยู่นิ่งหรือทำลายข้าวของ แต่คุณสามารถฝึกให้พวกเค้ามีพฤติกรรมที่ดีขึ้นได้
เมื่อถูกปล่อยให้อยู่ลำพัง
สุนัขเป็นสัตว์สังคม ถ้าพวกเค้าปฏิเสธที่จะเข้าหาอาจส่งผลให้มีพฤติกรรมทำลายข้าวของ เห่าโดยไม่มีสาเหตุ เบื่อง่าย เรียกร้องความสนใจ รวมถึงมักจะรู้สึกไม่ปลอดภัยและวิตกกังวล
เมื่อสุนัขรู้สึกเบื่อ ให้หาเวลาทำกิจกรรมด้วยกันหรือชวนพวกเค้าเล่น แต่ถ้าคุณไม่อยู่บ้านก็เตรียมของเล่นหลายๆ แบบไว้ให้แทน
การปรับพฤติกรรมอาจทำได้ยาก การให้คำชมเมื่อพวกเค้าทำตัวดีจึงเป็นเรื่องสำคัญ
หากพวกเค้าพยายามเรียกร้องความสนใจด้วยการเห่าหรือเข้ามาคลอเคลียไม่หยุด อย่าตอบโต้กลับ เพราะเป็นการกระตุ้นให้พวกเค้าทำแบบนี้ซ้ำๆ
อย่าปกป้องพวกเค้ามากเกินไป แต่ใช้เวลาอยู่ร่วมกับพวกเค้ามากๆ วิธีนี้จะทำให้พวกเค้ารู้สึกปลอดภัยและมีอารมณ์ที่มั่นคงมากขึ้น
เมื่อต้องออกเดินทาง
ปัญหาที่พบเจอบ่อยเวลาพาสุนัขออกเดินทางคือ ตื่นกลัวเมื่อต้องเดินทางและตื่นเต้นมากเกินไปจนอยู่เฉยไม่ได้ คุณสามารถแก้ปัญหานี้ได้โดยการเริ่มฝึกให้พวกเค้าเดินทางตั้งแต่เป็นลูกสุนัข หรือเริ่มฝึกจากการเดินทางระยะสั้นๆ ก่อน
เมื่อสุนัขรู้สึกกลัวหรือประหม่า
ฝึกลูกสุนัขให้คุ้นเคยกับสิ่งต่างๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นเสียงของเครื่องซักผ้า เสียงแตรรถ หรือออกไปพบเจอผู้คน เมื่อพวกเค้าโตขึ้นก็จะมีความวิตกกังวลหรือหวาดกลัวน้อยลง แต่สำหรับอดีตสุนัขจรจัดที่โตแล้ว ต้องจัดพื้นที่ที่เงียบสงบเป็นส่วนตัวให้พวกเค้ารู้สึกปลอดภัย หรือเมื่อรู้สึกกังวลก็จะได้มีมุมหลบซ่อนตัว
หากสุนัขอยู่ในวัยกำลังโต
ในช่วงวัยนี้ สุนัขอาจมีพฤติกรรมต่อต้านและไม่เชื่อฟัง ให้ใช้ความอดทนและฝึกพวกเค้าบ่อยๆ
ลักษณะนิสัยเฉพาะของสายพันธุ์
สุนัขแต่ละสายพันธุ์มีนิสัยแตกต่างกัน คุณจึงควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์พวกเค้าให้ดี เพื่อเลือกวิธีการดูแลและการฝึกได้อย่างเหมาะสม หรือปรึกษาขอคำแนะนำจากสัตวแพทย์ก็ได้