095-636-6364
![](https://static.wixstatic.com/media/fab023_9d8dad0ba77d41e8a5790e64accaf523~mv2.jpg/v1/fill/w_147,h_98,al_c,q_80,usm_0.66_1.00_0.01,blur_2,enc_auto/fab023_9d8dad0ba77d41e8a5790e64accaf523~mv2.jpg)
เหตุผลทำไมเราต้องทำประกันให้กับน้องหมา
คยมั้ยที่รู้สึกอยากให้เค้าอยู่กับเราไปให้นานที่สุด…. ขึ้นชื่อว่าเป็น “ทาส” ต่อให้ไม่มีก็หามาให้จนได้ ถ้านั่นจะทำให้เจ้านายของเรามีความสุข ความรู้สึกที่รักพวกเขามาก ๆ จนเกิดคำถามว่าจะทำอย่างไรให้สัตว์เลี้ยงอยู่กับเราไปนาน ๆ เพราะที่จริงแล้วอายุขัยโดยปกติของน้องหมาจะอยู่ที่ประมาณ 6-20 ปี
ยิ่งเราเลี้ยงพวกเขานานเท่าไหร่ความผูกพัน ความรัก และความต้องการที่จะอยู่กับเขาจะยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น และสำหรับบางคนแล้วจะทำยังไงถึงจะดูแลพวกเขาได้ดีที่สุด?
แน่นอนว่า 1 ในวิธีที่จะดูแลพวกเขาให้ดีมากที่สุดคงหนีไม่พ้นการทำ “ประกันสัตว์เลี้ยง”
อธิบายง่าย ๆ เหมือนว่าประกันสัตว์เลี้ยงจะช่วยเข้ามาแบ่งเบาเรื่องค่ารักษาพยาบาลจากการเจ็บป่วยจากอุบัติเหตุ และช่วยบรรเทาความรับผิดชอบในกรณีที่มีผู้เสียหายได้รับความเดือดร้อนจากสัตว์เลี้ยงของเรา อาทิ การที่สุนัขของเราไปกัดคนอื่น
รวมไปถึงบางบริษัทยังคุ้มครองถึงค่าใช้จ่ายในพิธีศพสัตว์เลี้ยงแสนรักของเราอีกด้วย อีกทั้งสำหรับบางบริษัท หรือบางกรมธรรม์ที่เราเลือกแล้วอาจจะช่วยเราเซฟค่าใช้จ่ายในส่วนของเรื่องค่าวัคซีน ค่าฝากเลี้ยง และส่วนอื่น ๆ ซึ่งแต่ละบริษัทจะมีเงื่อนไขที่แตกต่างกันออกไป
วิธีการเลือกประกันสำหรับสัตว์เลี้ยง
ในปัจจุบันประกันสัตว์เลี้ยงยังไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนัก โดยส่วนใหญ่ผู้เลี้ยงจะนิยมทำให้กับเจ้าสี่ขาแสนรักอย่างสุนัขและแมว อย่างไรก็ดี ก่อนที่จะตัดสินใจทำประกันภัยให้สัตว์เลี้ยง เราอาจจะต้องมาลองสำรวจ 3 วิธีที่จะทำให้เราสามารถเลือกประกันสัตว์เลี้ยงให้เหมาะสมได้กันก่อน
1. เราอาจจะมองถึงประเภทของสัตว์เลี้ยงของเราก่อน ไม่ว่าจะเป็น หมา แมว รวมถึงสายพันธุ์ และขนาดของตัวสัตว์เลี้ยง
2. ความเสี่ยงที่สัตว์เลี้ยงของเราอาจจะต้องพบเจออยู่บ่อย ๆ เพื่อการตัดสินใจเลือกกรมธรรม์ที่คุ้มค่ากับเรามากขึ้น
3. เลือกแผนค่าเบี้ยที่เราสามารถจ่ายไหว ยังคงสภาพการเงินของเราคล่อง ไม่กระทบค่าใช้จ่ายส่วนอื่นสำหรับหมาแมวของเรา
แต่ใช่ว่าเราจะสามารถทำประกันสัตว์เลี้ยงให้กับหมาแมวของเราได้เลยนะ เพราะเราต้องผ่านเงื่อนไขขั้นพื้นฐานที่บริษัทประกันกำหนดก่อนด้วย
โดยเงื่อนไขพื้นฐาน หลัก ๆ สำหรับประกันสุนัข ประกันแมว มีดังนี้
1. สัตว์เลี้ยงของเราต้องสุขภาพดีสมบูรณ์ ไม่ป่วย ไม่บาดเจ็บ ไม่พิการ
2. สัตว์เลี้ยงต้องอยู่ในประเทศไทย
3. สัตว์เลี้ยง 1 ตัว สามารถซื้อได้ 1 กรมธรรม์ (ต่อ 1 บริษัท)
4. ต้องมีเอกสารทางการแพทย์ หรือผลการตรวจสุขภาพ (แต่บางบริษัทอาจไม่ต้องตรวจสุขภาพ แต่ต้องมีเอกสารการฉีดวัคซีนตามที่สัตว์แพทย์นัด เช่น โรคพิษสุนัขบ้า โรคไข้หัด (สุนัข/แมว) โรคหวัด โรคฉี่หนู และอื่น ๆ (บางบริษัทอาจมีเงื่อนไขที่มากขึ้น อยู่ที่เราเลือก อย่าลืมศึกษาก่อนตัดสินใจทำประกัน)
แล้วประกันสัตว์เลี้ยงส่วนใหญ่คุ้มครองอะไรบ้าง?
โดยส่วนใหญ่แล้วจะคุ้มครองในส่วนของ
1. ค่ารักษาพยาบาล
2. ค่ารักษาอุบัติเหตุ
3. ทรัพย์สินบุคคลภายนอกที่เสียหายจากสัตว์เลี้ยงของเรา
4. ค่ารักษาพยาบาลของบุคคลภายนอกที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงของเรา
5. ค่าจัดงานศพสัตว์เลี้ยง
6. ค่าติดตามสัตว์เลี้ยงสูญหาย (มีบางบริษัท)
อีกทั้งความคุ้มครองส่วนใหญ่สามารถใช้ได้ทั้งที่คลินิกรักษาสัตว์เลี้ยงใกล้บ้าน หรือโรงพยาบาลสัตว์เลี้ยงชั้นนำทั่วประเทศ เรียกได้ว่าเราสามารถนำสัตว์เลี้ยงของเราเข้ารักษาที่โรงพยาบาลชั้นนำโดยไม่ต้องกังวลถึงค่าใช้จ่ายว่าจะแพงมากแค่ไหน และเพื่อให้สัตว์เลี้ยงแสนรักได้รับการดูแลที่ดีที่สุด ประกันสัตว์เลี้ยงจึงสำคัญแบบนี้นี่เอง (แต่บางบริษัท และบางเงื่อนไขกรมธรรม์อาจมีสำรองจ่ายนะ)
แล้วเงื่อนไขที่ประกันสัตว์เลี้ยงบางบริษัทไม่คุ้มครองหล่ะมีอะไรบ้าง?
โดยเงื่อนไขหลัก ๆ แล้วที่บริษัทจะไม่คุ้มครองสัตว์เลี้ยงของเรา ได้แก่
1. สัตว์เลี้ยงถูกฆ่าโดยเจตนา เช่น ถูกวางยา ถูกแกล้ง ฯลฯ
2. กรณีเสียชีวิตจากการเลี้ยงไม่ถูกสุขลักษณะ เช่น ภาวะขาดอาหาร เสียชีวิตจากความร้อน (โรคสัตว์เลี้ยงอย่าง ฮีทสโตรก)
3. กรณีเสียชีวิตจากโรคระบาดของสัตว์เลี้ยง อาทิ โรคหัดสุนัข
4. ไม่คุ้มครองสัตว์เลี้ยงจากโรคที่ป่วยก่อนทำประกัน
5. ไม่คุ้มครองสัตว์เลี้ยงที่เสียชีวิตหรือป่วยภายใน 60 วันแรกหลังจากทำประกัน
อีกทั้งบางบริษัทจะมีเงื่อนไขพิเศษ เช่น สิ้นสุดความคุ้มครองเมื่อขายสัตว์เลี้ยงให้คนอื่น หรือบริษัทรู้ว่าเลี้ยงผิดวัตถุประสงค์ที่เราแจ้งไว้กับบริษัท
รวบรวมประกันสัตว์เลี้ยงที่น่าสนใจ ฉบับอัปเดตปี 65 ให้ทาสอย่างเราได้ลองศึกษา แล้วหาซื้อมาเพิ่มความคุ้มครองชีวิตของบรรดาสัตว์เลี้ยงที่เรารักกัน